‘เบื้องหลังเหรียญ’ – Aleksandr Oskin

ถึงแม้ว่าจะอยู่ต่ำกว่าหนึ่งถึงสองระดับ ผุ้เล่นบางคนก็ไม่อาจให้ความเสียเปรียบนี้มาหยุดพวกเขาไว้ ถ้าคุณเคยอยู่ในเหตุการณ์นี้เป็นคนที่สามารถตัดสินแพ้ชนะของเกมนั้นคุณอาจจะเคยได้เหรียญเชิดชูเกรียติ Oskin มาบ้างแล้ว แล้วใครคือ Aleksandr Oskin และทำไมเหรียญถึงต้องตั้งชื่อตามเขาละ? งั้นเรามาดูเบื้องหลังเหรียญกันดีกว่า

Aleksandr Oskin เกิดวันที่ 8 เมษายน 1920 ในหมู่บ้าน Male Korowino ประเทศรัสเซีย และเมื่ออายุ 12 ปี เขาได้ย้ายไปอาศัยอยู่ในมอสโกวและ 5 ปีผ่านไปในปี 1937 เขามีอายุ 17 ปี เขาได้จบการศึกษาจากเกรด 10 (มัธยมศึกษาปีที่ 4) และได้ไปศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยม Moscow Technical-Economic ในปี 1939 ขณะที่ทำงานเป็นผู้ตรวจภาษีไปด้วย Oskin ได้เข้าร่วมกับกองทัพรัสเซียในเดือนตุลาคมปี 1940 และรับใช้อยู่ในหน่วย Central Asian Military District ก่อนจบการศึกษาในช่วงต้นปี 1941 จากโรงเรียนกรมทหาร หลังจากจบได้ไม่นาน เขาได้ถูกเรียกเข้ากองทัพทันทีในช่วงตึงเครียดของสงครามโลกครั้งที่ II

การโจมตีครั้งแรกของ Oskin ในช่วงส่งครามโลกครั้งที่ II นั้นเริ่มจากการเป็นผู้บังคับการของรถถังเบา T-26 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 1941 ประจำการที่แนวรบ Bryansk ซึ่งตั้งอยู่ในแนวรบทิศตะวันตก ที่เป็นที่ที่ Oskin ได้เข้าร่วมในสงครามแห่ง Smolensk และได้สู้อย่ากล้าหาญในการต้านการบุกของฝ่ายเยอรมัน ส่วนแรกของการโจมตีแบบ blitzkrieg ของฝ่ายเยอรมันที่ต้องการโจมตีฝ่ายสหภาพโซเวียต ในช่วงต้นของปฏิบัติการ Barbarossa ในขณะที่ผ่ายเยอรมันยังรุกคืบเข้ามา Oskin ได้ร่นถอยไปยังเมืองมอสโกวในเดือนตุลาคม ซึ่งได้กลายเป็นผู้ป้องกันเมืองกลุ่มแรกในช่วงสงครามกรุงมอสโกว หลังจากสู้การอย่างดุเดือดนั้น Oskin ได้ประสบเหตุการณ์เฉียดตายซึ่งทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในวันที่ 18 ตุลาคม หลังการป้องกันที่แข็งแกร่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

Oskin ได้รักษาตัวจากการบาดเจ็บจนถึงเดือนมกราคม 1942 แต่ด้วยความดื้อด้านของเขา เขาเลือกที่จะกลับไปเข้าสู่สนามรบก่อนที่การรักษษจะเสร็จสิ้น เขาได้มาเป็นพลวิทยุให้ในรถถัง T-34 ที่มีประสิทธิภาพที่น่าตะลึงมากในยุทธการสตาลินกราด หนึ่งในการปะทะที่ใหย๋ที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้ง II เพียงแค่หนึ่งหลังจากการบาดเจ็บของเขาครั้งแรก วันที่ 29 ตุลาคม 1942 ในขณะที่เขากำลังป้องกันเมือง เขาได้ถูกรับแรงกระแทกรับบาดเจ็บสาหัสจากการระเบิกปูพรมของ Luftwaffe Oskin ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลอีกครั้ง หลังจากที่เขาพักฟื้นตัวเรียบร้อย เขาได้รับการฝึกเพิ่มเติมที่โรงเรียนรถถัง Poltava และถูกส่งไปยังแนวหน้าอีกครั้งในเดือนมกราคมปี 1944

ครั้งนี้ในฐานะผู้บังคับการของ T-34-85 ในกองพันรถถังที่ 53 ของแนวรบยูเครนที่หนึ่ง เขาได้เจอความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขาในการรบที่ยากลำบากที่หัวสะพานเมือง Sandomierz ในวันที่ 12 สิ้งหาคม 1944 Oskin และหมวดทหานรนั้นได้พรางตัวอย่างดี รอป้องกันโดยการลอบโจมตีที่ด้านนอกรอบหมู่บ้าน Owzow และที่นี่ที่กองกำลังที่มหาศาลของฝ่ายเยอรมันนั้นได้โจมตีพร้อมทั้งรถถังรวมไปถึงรถถัง King Tiger ครั้งแรกที่ได้เห็นในแนวรบตะวันออก ขณะที่ผ่ายเยอรมันกำลังบุกเข้านั้น Oskin และ T-34-85 ของเขาได้ทำลาย King Tiger สามคัน จากระยะแค่เพียง 200 เมตร และทำความเสียหายกับคันที่สี่ ในวันถัดมา Oskin ได้นำบุกการโต้กลับ เป็นรถถังคันแรกๆที่ได้ถล่มทหารข้าศึก ในช่วงยุทธการนี้ King Tiger ถูกยึดสามคันโดยฝ่ายรัสเซีย ซึ่งเป็นครังแรกที่ถูกยึดและชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของฝ่ายรัสเซียที่สามารถนำรถถังที่ถูกยึดนี้ไปทำการทดสอบแลละวิจัยต่างๆ ให้ความรู้ที่มีค่าเกี่ยวกับจุดสูงสุดของวิศกรรมด้านรถถังของฝ่ายเยอรมัน หนึ่งใน King Tiger ถูกตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์รถถัง Kubinka ใกล้กับกรุง Moscow

สำหรับความกล้าเยี่ยงฮีโร่ของเขาในการรบครั้งสุดท้าย เขาได้รับยบรางวัลดาวทอง หรือที่เรียกว่าฮีโร่ของสหภาพโซเวียตพร้อมทั้งเครื่องอิสริยาภรณ์เลนิน Oskin นั้นได้ศึกษาต่อแล้วได้สอนในตำแหน่งต่างๆและถูกถือว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการควบคุมรถถังทั้งในประเทศและรถถังของต่างชาติ  เขาได้ซึมซับประสบการณ์ของเขา จิตวิญญาณการต่อสู้ที่ดุเดือดและความยินดีสำหรับการทำสงครามด้วยยานเกราะถึงพลรถถังของรัสเซียในอนาคต เขายังรับใช้ในกองทัพจนถึงปี 1971 เขาได้ปลดระวางในยศพันโท

ปิด