อิทธิพลของอังกฤษก็ยังคงมีผลกับรถถังเบาระดับ II 7TP คันต่อมา โดยวิวัฒนาการการออกแบบมาจาก Vickers Mk. E. แต่ต่างจากรถถังคันก่อนหน้าที่ 7TP ไม่ได้เข้าสายการผลิตจำนวนมากและมียอดการประกอบเพียง 150 คัน
1 / 6
ระดับ III และ IV นั้นประกอบด้วยรถถังรูปทรงเดียวกันสองคัน ต้นแบบรถถังเร็ว10TP นั้นโดดเด่นจากการใช้ระบบช่วงล่างคริสตี้ แต่ก็เหมือนกับรถถังคันต่อมา 14TP ที่การพัฒนารถถังเหล่านี้ถูกหยุดลงหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มขึ้นเพียงไม่นาน
ระดับ V นั้นเป็นของ KSUST I ซึ่งเป็นแนวคิดรถถังที่พัฒนาในช่วงการยื่นประมูลปี 1937 หนึ่งในรุ่นที่เป็นที่ต้องการที่สุดซึ่งก็คือ “20/25TP” นั้นเป็นที่รอคอยมานานของชุมชนชาวโปแลนด์ และเราก็ยินดีที่จะเพิ่มมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสาย ในด้านค่าคุณลักษณะการรบ รุ่นนี้จะวิวัฒนาการรูปแบบที่เริ่มจากระดับล่างโดยมีปืนขนาด 75 มม.ทำความเสียหายได้ 140 หน่วยต่อนัด ซึ่งเป็นค่าที่ถือว่าน่าประทับใจหากเทียบกับค่าเฉลี่ย 115 หน่วยที่พบได้ในรถถังกลางระดับ V คันอื่นๆ
เมื่อเราไปสู่ระดับ VI และ VII แนวคิดรถถังสองคันโดย Edward Habich ก็ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมา โดยตัว Edward เองนั้นเป็นวิศวกรชาวโปแลนด์ที่มีความสามารถซึ่งเขาได้ผสมผสานแนวคิดที่ประสบความสำเร็จของการออกแบบรถถังเยอรมันและโซเวียตในยุคนั้นเข้ามาเป็นรถถังคันใหม่ อิทธิพลของโซเวียตทำให้รถถังมีแผ่นเกราะลาดเอียงส่วนอิทธิพลของเยอรมันก็ทำให้ป้อมปืนรถถังมีขนาดย่อมและอำนาจการยิงสูง ซึ่งอำนาจการยิงสูงนี้จะกลายมาเป็นจุดเด่นของทั้งสองระดับถัดมา โดยคุณจะสามารถคาดหวังได้ว่าความเสียหายต่อนัดของรถถังระดับ VI นั้นจะอยู่ที่ 220 ถึง 240 หน่วย