“ทหารผ่านศึกและผู้มาใหม่ พันธมิตรกำลังขอความช่วยเหลือ! Max von Krieger นักวิทยาศาสตร์ผู้คลั่งไคล้ กลับมาพร้อมสิ่งน่ารังเกียจอีกครั้ง และเราต้องการให้คุณช่วยหยุดมัน เราไม่สามารถสู้กับการสร้างของเขาได้เพียงลำพัง แต่เรามีโอกาสที่จะหยุดการอาละวาดของเขาได้ เราเคยทำมาแล้ว และเราจะทำได้อีกครั้ง!”
ผู้พัน วางจดหมายลงก่อนที่จะอ่านข้อความทั้งหมด
"Max von Krieger เป็น นักวิทยาศาสตร์ที่เก่งกาจ คนหหนึ่ง แต่ ความเย่อหยิ่งของเขาจะทำให้เขาล้มไม่เป็นท่า" ผู้พันกล่าวกับพันตรีพันธมิตรที่มาพร้อมกับรายงานนี้ "เราไม่มีกำลังจำนวนมากที่จะต่อต้านเขา ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้อง ปรับใช้หน่วยไล่ล่าของเราอย่างมีกลยุทธ์ และอาสาสมัครทุกท่านที่มาร่วมกับเรา"
"นักวางแผนที่ดีที่สุดของเราอาจมีแผนให้เรา” ผู้พันกล่าวอย่างมั่นใจ "เราได้เตรียม บรรยายสรุปภารกิจ สำหรับผู้บังคับบับการเกี่ยวกับวิธีการโจมตี Blitzträger auf E 110 ให้ได้ผลดีที่สุด"
เมื่อจอมืดลง พันตรีก็หยุดชั่วครู่แล้วยื่นแฟ้มมีเอกสารออกมา
"ข้างในเป็นอะไร?" พันเอกได้ทำการเปิดแฟ้มแล้วอ่านแผ่นแรกอย่างรวดเร็ว
"ยานเกราะใหม่ ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการต่อสู้กับ Max von Krieger ครับ" พันตรีตอบ
"ม่านพลังกันกระสุนบน Bat.-Chatillon 25 t งั้นรึ? น่าสนใจดีหนิ" พันเอกกล่าวแล้วทำการเปิดไปยังหน้าอื่นๆ
"การรบในช่วงสมรภูมิครั้งก่อนแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพของหมู่ผู้ไล่ล่าด้วยรถถัง T-55 Thunderbolt นั้นไม่ได้สูงดั่งที่เราหวังเอาไว้ Blitzträger auf E 110 ที่ von Krieger ใช้ออกรบได้ทำลายรถถังรุ่นนี้ไปจำนวนมาก" พันตรีออกความเห็นในขณะที่กำลังอ่านรายงานต่อ "ยานเกราะใหม่เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ประสบการณ์ที่เราได้รับจากการรบครั้งก่อนหน้า"
"กองร้อยยานเกราะพิเศษอัลฟ่าและบราโว่นั้นต่างก็ได้รับยานเกราะใหม่นี้เข้าประจำการจนครบแล้ว และผมเห็นว่านี่คือเวลาเหมาะสมที่จะโจมตี คำแนะนำเกี่ยวกับยุทธวิธีของเราอยู่ที่หน้า 25 ครับ" พันตรีกล่าว
หน้ารายงานที่กล่าวถึงนั้นบาง – ข้อมูลเกี่ยวกับผลงานการสร้างของ von Krieger นั้นมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องชำระทั้งด้วย เลือดและเหล็กกล้า:
- การยิงจากระยะไกลของ Blitzträger auf E 110 นั้นไร้ประสิทธิภาพ ต้องเข้าใกล้ข้าศึกให้ได้เพื่อทำความเสียหายสูงสุด
- ถ้าพลาสม่าที่เก็บได้ไม่ได้ถูกใช้ในการเร่งเครื่องกำเนิดจนกระแสไฟเกิน ก็สามารถใช้พลาสม่าดังกล่าวในการเพิ่มความเสียหายที่ทำต่อ Blitzträger auf E 110 ได้
- ทำการรุมยิงไปที่ Blitzträger auf E 110 เมื่อ ม่านพลังของมันถูกปิดลง
- Von Krieger สามารถดูดพลาสม่าจากพาหนะของพันธมิตรคันที่ถูกทำลายไปได้ คุณควรพยายามคุ้มกันพาหนะคันที่มีพลาสม่าเสมอ
- ความทนทานของยานรบสามารถเพิ่มคืนได้ด้วยการเก็บพลาสม่าหรือจากการเข้าเร่งกระแสไฟเครื่องกำเนิดเกินพิกัดจนสำเร็จ
- ถ้า Blitzträger auf E 110 ไม่ได้พยายามบุกให้คุณเน้นเข้าเร่งกระแสของเครื่องกำเนิดจนเกินพิกัดแทน การเร่งกระแสของเครื่องกำเนิดแต่ละเครื่องจนเกินพิกัดจะปิดม่านพลังเป็นการชั่วคราว และเมื่อเร่งกระแสจนเกิดพิกัดในเครื่องกำเนิดสุดท้ายก็จะเป็นการปิดม่านพลังโดยถาวร
- ควรให้ยานรบที่ว่องไวหรือเสียหายน้อยสุดเป็นคันที่เก็บพลาสม่า เพราะมีโอกาสในการไปถึงเครื่องกำเนิดได้มากกว่า
- อย่ายอมแพ้ล่ะ! ถ้าการรบจบลงแต่มีอย่างน้อยหนึ่งในผู้ไล่ล่าเก็บพลาสม่าเอาไว้ได้ ก็จะมีการ ต่อเวลา การรบโดยเวลาจะเพิ่มตามเวลาของพลาสม่าที่มี แต่ก็ไม่น้อยกว่า 30 วินาที
- เครื่องกำเนิดแต่ละเครื่องที่กระแสไฟเกินจะเพิ่มเวลาให้คุณปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ
"ทั้งหมดนี่ก็ดูดีนะ ผู้พัน แต่เรารู้อะไรเกี่ยวกับ Blitzträger auf E 110 บ้าง?" พันเอกถามพร้อมกับปิดแฟ้มลง
"เราหาข่าวได้บางส่วนพร้อมกับข้อมูลใหม่บางอย่างจากหน่วยสอดแนมของเราครับ"
"สิ่งที่เราต้องแลกมากับข้อมูลนี้คือะไร?" พันเอกถามอย่างเยือกเย็น
"เราเสียกำลังไปมาก Max von Krieger ไม่รีรอ Blitzträger auf E 110 ของเขาตอนนี้ทรงพลังกว่าเดิมมาก" พันตรีตอบด้วยเสียงที่ไม่มั่นใจ "แต่เราสามารถกู้คืนบันทึกส่วนตัวของ von Krieger บางส่วนมาได้"
กองกระดาษแบบร่างและเอกสารดูวางตรงหน้าของพันเอก เขาหยิบสมุดบันทึกหนังเล่มเล็กๆขึ้นมา
บันทึกของ Von Krieger's เกี่ยวกับกลยุทธ์สำหรับ Blitzträger auf E 110
"ทางพันธมิตรรู้กลยุทธ์ของเครื่องกำเนิดที่ฉันใช้ แต่พวกเขาไม่มีทางจะปราบ Max von Krieger ลงได้! สงครามก็เหมือการเล่นหมากรุก ฉันนำหน้าอยู่ 3 ก้าวเสมอ"
- พยายามกันอย่าให้ผู้ไล่ล่าเข้าใกล้เครื่องกำเนิดได้ กลุ่มผู้ไล่ล่าหลายคันสามารถเร่งกระแสไฟเครื่องกำเนิดจนระเบิดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นหมายถึงการบอกลา E 110 ที่เป็นผลงานชิ้นเอกของฉัน!
- เมื่อยานเกราะไม่มีม่านพลังแล้ว หมู่ผู้ไล่ล่าจะรู้ตำแหน่งของฉัน ฉันต้องแก้ไขเรื่องนี้ในทันที
- จงเตือนตัวเอง: อย่าพยายามอยู่ในที่โล่งเมื่อเกราะป้องกันถูกทำลาย ฉันต้องไม่ทำให้ข้าศึกได้ใจ!
- เมื่อม่านพลังใช้งานได้ ก็จะไม่มีอะไรหยุดฉันได้! เริ่มแรกคือ บุกโจมตี แล้วโจมตี แล้วก็โจมตีอีก! และเก็บพลาสม่าซึ่งจะคืนความทนทานบางส่วนและเร่งคูลดาวน์การย้ายตำแหน่ง ดีที่ฉันทำให้การเก็บพลาสม่าเป็นไปโดยอัตโนมัติ!
- แบ่งแยกหมู่ผู้ไล่ล่าแล้วครองสนามรบให้ได้ ช่างเป็นสูตรแห่งชัยชนะที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ ตราบใดที่ฉันแยกพวกไล่ล่าออกจากกันได้ ชัยชนะก็จะเป็นของฉัน ปกป้องจุดสำคัญจากหมู่ผู้ไล่ล่าแล้วค่อยๆเก็บข้าศึกทีละคัน
- เหล่าผู้ไล่ล่าไม่ได้เป็นอมตะ ถ้าฉันทำลายหนึ่งคันได้สามครั้ง ก็จะมีตัวน่ารำคาญน้อยลงให้กังวล
- ใช้ลูกศรคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือกระแสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อขัดขวางการเร่งกระแสเครื่องกำเนิดจนเกินพิกัด
- ยิ่งยานรบของพันธมิตรได้รับผลกระทบจากกระแสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเท่าใด มันก็จะยิ่งใช้ได้เร็วขึ้น
- กระแสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถพุ่งทะลุสิ่งกีดขวางไปยังเป้าหมายได้ด้วยซึ่งเป็นความประหลาดใจ"ที่ดี"สำหรับลูกสมุนฝ่ายพันธมิตรที่กำลังซ่อนตัวหลังที่กำบังจากผลงานชิ้นเอกของฉัน!
- ม่านพลังกันกระสุนสำหรับ Foudre น่ะหรือ? ก็แค่ความพยายามที่จะทำให้ความยิ่งใหญ่ของฉันน่าขัน กระแสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของฉันสามารถเจาะทะลุม่านพลังนั้นได้
- ถ้าคุณคิดว่าลูกศรคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของฉันยิงพลาด ขอให้คิดใหม่! เพียงการถลอกเล็กน้อยเท่านั้นก็สามารถสร้างความเสียหายได้มาก
เมื่ออ่านจนจบ พันเอกก็มองอย่างจริงจังไปที่คู่สนทนาของเขา
"ประกาศรับอาสาสมัครได้ เรียกทุกคนที่เคยได้ปฏิบัติการในสมรภูมิครั้งก่อนรวมถึงทหารใหม่ด้วย และอย่าลืมระบุคำสั่งให้กับอาสาสมัครทุกคนด้วย ตอนนี้พวกเขาคือกลุ่มอัลฟ่าและบราโว่ของเราแล้ว"
พันตรีเกือบจะเดินพ้นสำนักงานแล้วแต่ก็หยุดที่ประตู
"ผู้พันครับ มีรายงานจากผู้รอดชีวิตว่ามีข้าศึกแบบที่สองที่มีลักษณะเหมือนกับยานเกราะของ von Krieger ครับ คำให้การของพยานนั้นฟังดูน่าสงสัยแต่ก็พอเป็นไปได้อยู่ เราให้ชื่อข้าศึกใหม่นี้ว่า Blitzträger auf E 220 ครับ"
"เราคงไม่สามารถทำงานด้วยข่าวลือได้หรอกนะ กว่าจะรู้ตัวอีกที เราก็คงไปตามเรื่องราวบ้าๆของพยัคฆ์ขาวแล้ว"
พันตรีทำความเคารพแล้วออกจากสำนักงานไป พันเอกถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วจึงเปิดลิ้นชักจากโต๊ะของเขา ในนั้นมีเหรียญตราพร้อมกับรูปรถถังสีขาวในกล่องกำมะหยี่...