โปรดทราบ
ชิ้นข่าวที่คุณกำลังดูอยู่ในรูปแบบเวบไซต์เก่า อาจจะมีปัญหาในการแสดงข้อมูลในเวอร์ชันบราวเซอร์บางเวอร์ชัน

ปิด

แคมเปญที่ 3: ด่านสาม - "Fall of the Empires"

ท่านผู้บัญชาการ,

สงครามแคลน มาถึงด่านสุดท้ายแล้ว ของแคมเปญที่สาม นี้คือโอกาสสำคัญในการรับค่าชื่อเสียงมาสู่แคลนของท่าน ในด่านสามนี้ วิธีที่ท่านจะคว้าค่าชื่อเสียงมาได้มากที่สุดคือการเข้ายึดพื้นที่ของแคลนอื่นๆ ที่มีพื้นที่มากกว่าของท่าน เตรียมตัวให้พร้อมในการรบพร้อมกับการเติบโตของอาณาจักรของท่าน  จะมีพื้นที่มากมายที่ท่านต้องเข้าร่วมรบ

ลุยเลย!

 

1. กฎทั่วไปของด่านสามในแคมเปญที่สาม

1.1. ด่านที่สามของแคมเปญในแผนที่สากลจะใช้ชื่อว่า  "Fall of the Empires" และมีระยะเวลาตั้งแต่ 6 ถึง14 ธันวาคม 2557.

1.2. ในด่านนี้ รถถังเทียร์ X จะใช้งานได้

1.3. Ransacks และ Revolts เปิดใช้งาน.

1.4. เริ่มตั้งแต่ 6 ธันวาคม, 01:00 (UTC), โหมด redivision จะเปิดใช้งาน:

  • ทุกจังหวัดจะใช้งานกานขึ้นฝั่ง
  • Spy และ Counterspy เปิดใช้งาน
  • Revolts ปิดใช้งาน.
  • จำนวนการลงสมัครเพื่อเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ขึ้นฝั่งในช่วง world redivision period คือ 32
  • ถ้าระหว่างทัวร์นาเมนต์การขึ้นฝั่ง กับเจ้าของพื้นที่จบลงที่ผลเสมอ จังหวัดนั้นจะเป็นของแคลนผู้ท้าชิง

1.5. World redivision จบลงวันที่ 7 ธันวาคม, 01:00 (UTC), และหลังจากนั้น กฎของ Fall of the Empires จะเข้ามาแทนที่:

  • Revolts เปิดใช้งาน.
  • Revolt มีโอกาสเกิดได้สูงขึ้น
  • จำนวนการสมัครเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ขึ้นฝั่งสูงสุดคือ 64.

1.6. เทิร์นสุดท้ายของแคมเปญที่สามจะเริ่ม 14 ธันวาคม เวลา 00:00 (UTC).

1.7. ระหว่างแคมเปญที่สาม แคลนสามารถสลับระหว่างแผนที่สากล หรือออกจากแผนที่ได้ตลอดเวลา เมื่อแคลนทำเช่นนั้น เขาจะเสียจังหวัดทั้งหมดในแผนที่ แต่ค่าชื่อเสียงยังคงอยู่

1.8. หลังออกจากแผนที่ ชิปทั้งหมดของแคลนเช่นเดียวกันกับ ศูนย์บัญชาการจะย้ายออกจากแผนที่ และกลับเข้าคลัง ชิป และศูนย์บัญชาการ ที่ถอนตัวออกจากแผนที่จะใช้งานได้อีก หลัง 24 ชั่วโมง ชิปจะใช้งานได้อรกในแผนที่ของเทิร์นต่อไปหลังออกไป

 

2. เป้าหมายหลักของด่านที่สาม

2.1. ระหว่างด่านที่สาม แคลนจะได้รับโบนัสในค่าชื่อเสียง สองทาง: โดยการเพิ่มจำนวนจังหวัดที่ครอง หรือทำการรบกับแคลนที่มีพื้นที่มากกว่า

2.2. การเล่นจะเป็นแบบตัวคูณG (ดูที่. สูตรการคำนวน) ในด่านที่สามของแคมเปญขึ้นกับจำนวนของจังหวัดแคลน และความแตกต่างของจำนวนพื้นที่ที่ครอบครองในแคลนคู่ต่อสู้

G = 1 + (N1 + N2 / N1) × 0,25

N1 - จำนวนพื้นที่ ซึ่งครอบครองโดยแคลน (ถ้าแคลนไม่มีพื้นที่, N1 = 1);

N2 - จำนวนของพื้นที่ที่ครองโดยแคลนศัตรู (ถ้าไม่มีพื้นที่ที่แคลนศัตรูมี, N2 = 1).

2.3. คำนวน G ค่าสัมประสิทธิ์จะปัดเศษไปยังหนึ่งทศนิยม

2.4. ค่าสัมประสิทธิ์ G จะคำนวนขึ้นกับสถานการณ์ที่เทิร์นนั้น ก่อนที่จังหวัดจะย้ายไปยังการครอบครองของแคลนอื่น

ตัวอย่าง:

แคลน K1 จะครองจังหวัด P1 แคลน K2 ครองสามจังหวัด: P2, P3 และ P4. แคลน K1 โจมตีแคลน K2ที่จังหวัด P2, ชนะการรบ และกลายเป็นผู้ครอบครองจังหวัดใหม่ในเทิร์นต่อไป ในเทิร์นปัจจุบัน, K2 จะยังเป็นเจ้าของพื้นที่ นั้นเป็นเหตุว่าทำไม ค่าชื่อเสียงที่คูณจะเป็นไปตามสูตรนี้:

  • เมื่อการคำนวนค่าชื่อเสียงของผู้เล่น K1, ผลคูณ G จะคำนวนตามสูตรต่อไปนี้:

N1 = 1, N2 = 3

G = 1 + (1 + 3/1) × 0,25 = 1 + 4 × 0,25 = 2

  • เมื่อการคำนวนค่าชื่อเสียงสำหรับผู้เล่น K2 , ผลคูณG จะคำนวนตามสูตรต่อไปนี้:

N1 = 3, N2 = 1

G = 1 + (3 + 1/3) × 0,25 = 1 + 3,3 × 0,25 ≈ 1,8

 

ดังนั้น, ค่าชื่อเสียงของผู้เล่น K1 จะนำไปคำนวนโดยใช้ตัวคูณ G=2, และค่าชื่อเสียงของผู้เล่น K2 จะนำไปคำนวนโดยใช้ตัวคูณ 1,8.

 

3. ภารกิจเสริมในด่านที่สาม

3.1. "Invasion": แคลนที่ชนะคู่แข่งที่ครอบครองสามพื้นที่หรือมากกว่า, ได้รับ 10% ของค่าชื่อเสียงสำหรับการรบ(คำนวนสูตร Z = 1,1).

3.2. เริ่มตั้งแต่ด่านแรก จนกระทั่งจบในแคมเปญที่ 3, ผู้เล่นจะสามารถใช้งานภารกิจขึ้นฝั่ง รายการภารกิจที่สามารถทำได้จะพบได้ในกติกาทั่วไปของแคมเปญที่สาม

3.3. เพิ่มเติม, ผู้เล่นในแคมเปญทุกคนที่สามารถทำได้ภารกิจรองและพิเศษได้ ตามรายการที่มีในกติกา

 

Fall of the Empires: เรื่องราวประวัติศาสตร์

ตอนท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 1, ทั้งสี่จักรวรรดิยังคงอยู่: รัซเซีย, เยอรมัน, อ๊อตโตมัน และ แอสโตร-ฮังการี่

ระหว่างการปฎิวัติกุมภาพันธ์ปี 1917, การยุติสถานบันกษัตริย์ในรัซเซีย ระหว่างการปฎิวัติตุลาคมปี 1917 และสงครามกลางเมืองปี 1918-1921, มีการยุบรวมของรัฐ ในอาณาเขตของจักรวรรดิรัซเซียเดิม, โดยแยกเป็น 80 รัฐย่อยขึ้น ในปี 1924, พื้นที่ทั้งหมด ก่อตั้งเป็นสหภาพโซเวียต

หลังการแพ้ของเยอรมันในสงครามโลก , เหล่าอาณานิคมที่ถูกครอบครองและแยกมาเป็นประเทศที่ได้รับชัยชนะ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน1918 ในเยอรมัน การปฎิวัติเริ่มขึ้น ส่งผลให้ระบบกษัตริย์ล่มสลาย ผลของการปฎิวัติพฤศจิกายน กลายมันเป็นจักรวรรดิไวมาร์

ตุรกีพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ ตกเป็นของ Constantinople และ Izmir นำมาซึ่งการเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวของชาติตุรกี สงครามปลดแอคตุรกีในปี 1919-1922 จบลงที่ชัยชนะของตุรกี ภายใต้เงื่อนไขการสงบศึก ตุรกีเสียการครอบครองใน อาราเบีย อียิปต์ ซูดาน ปริปโปลิตาเนีย ไซเรนิก้า เมโซโปเตเมีย ปาเลสไตน์ ทรานส์จอร์แดน เลบานอน และซีเรีย หมู่เกาะไอเจนซี และอื่น ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1922 ระบบสุลต่านถูกยกเลิก วันที่29 ตุลาคม 1923 สมัชชาใหญ่ตุรกีแห่งชาติได้ประกาศการจัดตั้งรัฐตุรกี ในวันที่ 3 มีนาคม 1924 ตำแหน่งผู้นำศาสนอิสลามถูกยกเลิก

ในปี 1918, วิกฤตเศรษฐกิจ สถานการณ์ยากลำบากในแนวหน้า และพรมแดนของจักรวรรดิรัสเซีย นำไปสู่กาล่มสลายของของแอสโตร-ฮังการี ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ออสเตรีย-ฮังการี ได้ล่มสลาย และแยะกเป็นเป็นสาธารณรัฐ โดยมีอาณาเขตแยกออกมาใหม่: เชโกสโลวาเกีย, โปแลนด์, และสาธารณรัฐออสเตรีย ฮังการี พื้นที่อื่นกลายเป็นส่วนหนึ่งของโรมาเนีย ยูโกสโลวาเกีย และอิตาลี

 

ปิด